การตั้งเป้าหมาย
ก่อนที่เราจะเริ่มทำการตลาดเพื่อธุรกิจ เราต้องกำหนดเป้าหมายที่เราต้องการและงบประมาณที่ใช้ในการทำโฆษณาเสียก่อน
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อกลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาของเราแล้วเราอยากให้เค้าลงมือทำ Action อะไร
โดยอัตราส่วนที่ลูกค้าทำ Action ตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้นั้น เรียกว่า Conversion Rate
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อกลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาของเราแล้วเราอยากให้เค้าลงมือทำ Action อะไร
โดยอัตราส่วนที่ลูกค้าทำ Action ตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้นั้น เรียกว่า Conversion Rate
การตั้งเป้าหมายและกำหนดงบโฆษณาโดยใช้ Conversion Rate
ยอดขาย/รายได้ (Sale) > Conversion rate > โฆษณา/งบประมาณ (Marketing)
เพื่อนำไปสู่การตลาดแบบหวังผลได้ขายถึงเป้า (SCM)
Conversion Rate คืออะไร ?
ความสามารถในการกระตุ้นให้ลูกค้าทำตามเป้าหมายที่เรากำหนดโดยวัดเป็น %
สิ่งที่เราอยากให้ลูกค้าทำ Action เช่น การซื้อ, ลงทะเบียน, โทรหาเรา หรือดาวน์โหลดแอป
ตัวอย่าง การนำ Conversion Rate มาใช้ในการกำหนดเป้าหมายของธุรกิจหอพักแห่งหนึ่ง
 |
| รูปที่ 1 conversion rate |
วิธีการตั้งเป้าหมายสำหรับแคมเปญ
เป้าหมายสำหรับแคมเปญแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1) เป้าหมายหลัก (Main goal)
2) เป้าหมายย่อยซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายหลัก (Funnel goal) ช่วยในการระบุปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญ
การตั้งเป้าหมายที่ดีจะต้องอ้างอิงจากข้อมูลธุรกิจของเราจริงๆ โดยประสิทธิภาพแต่ละขั้นตอนในการทำงานเริ่มตั้งแต่ทำให้ลูกค้ารู้จัก-สนใจ-เยี่ยมชม-จนกระทั่งตัดสินใจซื้อนั้นก็คือ Conversion rate ของเรานั่นเอง
ในกรณีที่เราเคยทำแคมเปญมาแล้วให้เราคำนวณ Conversion Rate (%) ของเป้าหมายย่อย (Funnel goal ในรูปที่ 1) แต่ละอันจากแคมเปญที่เคยทำก่อนหน้า เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดเป้าหมายแคมเปญและงบโฆษณาครั้งต่อไป (ถ้าหากเราไม่เคยทำแคมเปญมาก่อน ต้องสมมติ Conversion Rate ขึ้นมาเอง)
ตัวอย่าง การตั้งเป้าหมายด้วย Conversion Rate เพื่อกำหนดงบโฆษณาของธุรกิจหอพักแห่งหนึ่ง
 |
| รูปที่ 2 การคำนวณเป้าหมายและงบประมาณแคมเปญจาก conversion rate |
⭐ [รายได้]
ค่าเช่าต่อเดือน 3,500 สัญญา 1 ปี (12 เดือน) = 3,500*12 = รายได้จากห้องพัก 1 ห้อง 42,000 บาทต่อปี
ถ้าตั้งเป้าหมายให้มีรายได้ = 840,000 บาท/เดือน
ดังนั้น ใน 1 เดือน จะต้องมีคนเข้าพัก 20 คน โดยทำสัญญาเช่านาน 1 ปี [ 840,000/42,000 = 20 ]
⭐[คนเยี่ยมชม]
ถ้าความสามารถในการปิดการขายของเจ้าหน้าที่ conversion rate = 43%
เพื่อที่จะให้มีคนจองห้องพัก 20 คน
ดังนั้น จะต้องมีคนเยี่ยมชม 47 คน [ (20*100)/43 ]
⭐[Click โฆษณา]
ถ้าความสามารถในการเชิญผู้สนใจเข้ามาชมหอพักของเจ้าหน้าที่ conversion rate = 0.52%
เพื่อที่จะให้มีคนเยี่ยมชม 47 คน
ดังนั้น จะต้องมียอด click โฆษณา 9,000 ครั้ง [ (47*100)/0.52]
⭐[ค่าโฆษณา]
หากมียอด click โฆษณา 9,000 ครั้ง
และ Cost Per Click (ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคลิ๊ก) 2.2 บาท *ค่าเฉลี่ยต่อคลิ๊กขึ้นอยู่กับ keyword ที่ใช้ในแต่ละธุรกิจ
ดังนั้น งบประมาณหรือค่าโฆษณา ที่ใช้เพื่อให้มีรายได้ตามเป้าหมายที่เรากำหนดคือ 20,000 บาท
[ 9,000*2.2 ≈ 20,000 ]
ถ้าตั้งเป้าหมายให้มีรายได้ = 840,000 บาท/เดือน
ดังนั้น ใน 1 เดือน จะต้องมีคนเข้าพัก 20 คน โดยทำสัญญาเช่านาน 1 ปี [ 840,000/42,000 = 20 ]
⭐[คนเยี่ยมชม]
ถ้าความสามารถในการปิดการขายของเจ้าหน้าที่ conversion rate = 43%
เพื่อที่จะให้มีคนจองห้องพัก 20 คน
ดังนั้น จะต้องมีคนเยี่ยมชม 47 คน [ (20*100)/43 ]
⭐[Click โฆษณา]
ถ้าความสามารถในการเชิญผู้สนใจเข้ามาชมหอพักของเจ้าหน้าที่ conversion rate = 0.52%
เพื่อที่จะให้มีคนเยี่ยมชม 47 คน
ดังนั้น จะต้องมียอด click โฆษณา 9,000 ครั้ง [ (47*100)/0.52]
หากมียอด click โฆษณา 9,000 ครั้ง
และ Cost Per Click (ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคลิ๊ก) 2.2 บาท *ค่าเฉลี่ยต่อคลิ๊กขึ้นอยู่กับ keyword ที่ใช้ในแต่ละธุรกิจ
ดังนั้น งบประมาณหรือค่าโฆษณา ที่ใช้เพื่อให้มีรายได้ตามเป้าหมายที่เรากำหนดคือ 20,000 บาท
[ 9,000*2.2 ≈ 20,000 ]
 |
| รูปที่ 3 เป้าหมายของแคมเปญ |
ดังนั้น เราก็จะสามารถกำหนดเป้าหมายของแคมเปญได้ ตามรูปที่ 3
แสดงความคิดเห็น